top of page
ตำนานตราบาปของปิศาจสาว...
MEDUSA

ภาพวาด รูปปั้น และงานแกะสลักหัวของเมดูซ่า

สีน้ำมันบนผ้าใบติดไม้ เขียนโดย

การาวัจโจ จิตรกรสมัยบาโรกคนสำคัญชาวอิตาลี Galleria degli Uffizi, ฟลอเรนซ์ พ.ศ. 1598-99

      ในเรื่องราวบางเรื่องที่คนหลายคนมองข้ามผ่านไป มักจะมีความจริงบางอย่างซ่อนอยู่เสมอ เช่นเดียวกัน กับการนำเสนอรีไซทอลในครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับเรื่องราวประวัติชีวิต สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามเรื่องราวเหล่านี้ไปของเมดูซ่า ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและค่อนข้างสะท้อนค่านิยม สังคม หรือบรรทัดฐานต่างๆของชีวิตมนุษย์ ที่ต่างมีการแบ่งแยกชนชั้น เพศ หรืออีกหลายปัจจัย โดยในปัจจุบันที่ไม่ว่านิยามของสังคมจะเปลี่ยนไปมากมายเพียงใด แต่สุดท้ายก็มักจะมีการเอาเปรียบ การตราหน้าตัดสินคนเพียงภายนอก เรื่องราวนี้จึงเป็นเรื่องนี้น่าหยิบยกขึ้นมาเล่าถึงผู้ถูกกระทำ และยังโดนตราหน้าว่าเป็นปิศาจร้าย ทั้งๆที่เธอเป็นเพียงเหยื่อของคนที่ไม่ชอบเธอ และจากคนที่หลงใหลเธอ ซึ่งบางนิยามของในประวัติศาสตร์โบราณอาจมองว่าเพศหญิงเป็นเพศที่ด้อยกว่าชาย และต้องยกย่องเพียงหญิงที่บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะมนุษย์ต้องมีการสืบเผ่าพันธุ์ และสุดท้าย เพศหญิงก็ต้องเป็นเพศที่ต้องเสียบริสุทธิ์เพื่อที่จะดำรงค์เผ่าพันธุ์ต่อ ดังนั้นในค่านิยมนี้ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้หญิงจะมีสิทธิเท่าเทียม หรือสูงกว่าเพศชายได้เลย แต่ที่เทพีอเธน่ายังคงได้รับการเคารพบูชา เป็นเพราะว่านางเป็นหญิงบริสุทธิ์และนางเกิดมาจากหัวของเทพซุส แต่ตรงกันข้ามที่นางมีจิตใจที่โหดร้าย อิจฉาริษยาในความงามของเมดูซ่า ที่ในตำนานใหม่ที่ถูกดัดแปลงขึ้นหลังจากยุคกรีกโบราณนี้ แม่ของกอร์กอนหรือพี่น้องของเมดูซ่าเอง ก็ได้โดนข่มขืนมาเช่นเดียวกัน จึงเกิดออกมาเป็น 3 พี่น้องกอร์กอน

      เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมประเด็นนี้เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ คนมองว่าการที่เมดูซ่าโดนข่มขืนไม่ได้น่าสนใจเท่ากับประเด็นที่ทำไม นางถึงโหดร้าย และน่ากลัวได้ เพราะสังคมบางส่วนอาจมองว่าเพศหญิงต้องเป็นที่รองรับความโหดร้ายได้ ผู้ชายมีสิทธิเหนือกว่า เป็นผู้นำต้องยิ่งใหญ่ และไม่ได้มองเรื่องความทุกทรมานอันแสนสาหัสของผู้หญิงอันสง่างามคนหนึ่ง ที่เป็นเพศที่บอบบางอยู่แล้ว แต่กลับยังต้องโดนการกระทำเหล่านี้เพียงเพราะอารมณ์ที่ต้องเป็นใหญ่ของผู้ชายที่มีอำนาจเหนือกว่า คนที่ได้รับโทษคือนาง ไม่ใช่คนที่กระทำผิด เพราะนางเป็นมนุษย์ แต่โพไซดอนเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร จึงต้องการนำเสนอถึงสิทธิที่ผู้หญิงควรจะได้รับ และเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลว่าทำไมเมดูซ่าต้องออกมาปกป้องตัวเอง จากการถูกรุกรานจากเหล่าเพศชายกับผู้มีอำนาจเหนือกว่า แต่ต้องยอมรับว่าต้นเหตุของปัญหานี้คือนิยามของคนเห็นแต่ตัวเองทั้งสิ้น เป็นแค่บรรทัดฐานที่คิดขึ้นมาเองทั้งสิ้น และไม่นึกถึงผลกระทบที่จะตามมา ต่อจากนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวที่ทุกคนเคยได้อ่านและฟังกันมา

      ในเรื่องราวเมดูซ่านี้ มีการแทรกของการปฏิบัติตนในสังคม การปลูกฝัง การเอาตัวรอด การนำเสนอเรื่องราวนี้ที่มีอยู่ทุกสังคมและทุกที่ ส่วนในแง่ของนักดนตรี การถ่ายทอดก็อาจใช้ได้หลากหลายมากกว่าการเล่าเรื่องบรรยายแบบทั่วๆไป โดยอาจใช้ประสบการณ์ในชีวิตจริงเข้ากับการแสดงเปียโน หรือการแสดงผ่านเสียงเพลงเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านโน๊ต กับโทนเสียงของเพลง สื่อถึงความรู้สึกกับอารมณ์ของตัวละครที่นำเสนอ ซึ่งสำหรับผู้เขียนแล้ว เสียงดนตรีเป็นอีกคลื่นพลังงานอย่างหนึ่งที่ให้สัมผัสการรับรู้ชัดเจนและมีศิลปะดูน่าหลงไหลมากขึ้น

      เมดูซ่า (Medusa) เป็นปีศาจร้ายที่มีหัวเป็นงู ม้วนพันกัน มีปีก และมีอำนาจทำให้คนที่มองตากลายเป็นหิน  แต่จริงๆ แล้วเมดูซ่านั้นตามตำนาน มีชีวิตที่น่าสงสารและเป็นผู้ถูกกระทำ 

     เมทิส แม่ของเมดูซ่าและพี่น้องอีกสองสาว ทั้งเมดูซ่าและพี่สาวแต่เดิมนั้นเป็นสาวงามมาก แต่แล้ววันหนึ่งในวิหารอาเธน่าสาวงามเมดูซ่าที่มีชายมากหลายหมายปองก็ไปบูชาเทพีอาเธน่ายังวิหารตามปกติ เทพโปเซดอนได้ประจักษ์เห็นความงามของนางแล้วก็ต้องการครอบครองโดยใช้กำลังขืนใจ อาเธน่าจึงได้โอกาสใส่ความว่า เมดูซ่าบังอาจลบหลู่นางด้วยการสมสู่กันในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ แล้วฉวยโอกาสสาบเมดูซ่าให้กลายเป็นมารร้ายน่าเกลียดน่ากลัว และสาปให้ผมอันสวยงามลือชื่อของนางกลายเป็นงูเต็มหัว จากสาวงามเลื่องชื่อ ต้องมากลายเป็นมารร้ายที่น่าชิงชัง ขยะแขยงจนใครที่ได้เห็นจะต้องกลายเป็นหินไป

   

 

 

 

       เมดูซ่าทั้งชอกช้ำ ทั้งอับอาย ก็แปรความเจ็บช้ำที่ได้รับให้กลายเป็นความเคียดแค้นชิงชัง ต้องการทำร้ายหมายมาดทุกชีวิตที่ขวางหน้าโดยทำให้กลายเป็นหินไปจากการมองหน้าของนาง เป็นการตอบโต้ความอยุติธรรมที่ทำให้นางต้องรับชะตากรรมอันโหดร้ายเมดูซ่าจึงกลายเป็นมารร้าย ผู้เป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดในตำนานกรีก มีทั้งภาพสลัก รูปปั้นต่างๆ ของเมดูซ่าตามวิหารต่างๆ มากมาย

d68jj7l-cf54c61d-0a51-4e61-8386-57e351a8

รูปโพไซดอน

"เทศกาลโพไซดอนในเหมายัน" โดย Noel Robertson, The Classical Quarterly, New Series, Vol. 34, no.1 (2527), 1-16.

รูป Athena กับโล่หัวเมดูซ่า

www.deviantart.com/chrisrallis (2018-2020)

     ผู้ที่ฆ่าเมดูซ่าได้คือ เปอร์ซีอุส เมื่อเปอร์ซีอุสตกหลุมรักโพลีเดคเทสก็ต้องออกล่าหาเมดูซ่า เพื่อตัดหัวมาตามสัญญาที่ให้ไว้กับเทพอาเธน่า เทพีอาเธน่าก็ได้ประทานโล่ที่เป็นเงามันวับเหมือนกระจก จากนั้นเทวีอาเธน่าก็ให้อนุชาคือเทพเฮอร์มีสหรือเมอคิวรี่เป็นเทพบุตรของ ซูสอีกผู้หนึ่ง ไปนำดาบโค้งของโครนัสมาให้เปอร์ซีอุสเพื่อใช้ฆ่าเมดูซ่า เพื่อให้เป็นหลักประกันว่าเปอร์ซีอุสจะปฏิบัติการได้สำเร็จ ก็ต้องอาศัยของวิเศษอื่นๆอีก

     เมื่อเปอร์ซีอุสรู้ทางแล้วก็ไปหานางนิมฟ์ผู้ใจดี ผู้ให้ยืมรองเท้ามีปีกที่ทำให้เหาะได้ หมวกวิเศษที่ทำให้ล่องหนได้ และกระเป๋าวิเศษเพื่อไว้ใส่หัวเมดูซ่า

ภาพอเธน่ามอบโล่ให้กับเปอรซีอุส

app.emaze.com (2015)

     เมื่อได้ของวิเศษต่างๆ แล้ว เพอร์ซีอุส ก็เข้าไปยังถ้ำของนางมารกอร์กอนสามพี่น้อง เมื่อไปถึงก็พบว่าเมดูซ่ากำลังนอนหลับกับพี่สาวทั้งสอง เปอร์ซีอุสก็ได้เทวีอาเธน่าที่ตามมาช่วยอยู่ตลอดเวลา ช่วยถือโล่ให้จากภาพเงาของเมดูซ่าในโล่มันวับ

     เปอร์ซีอุสก็ตัดหัวเมดูซ่าขาดแล้วเก็บใส่ถุงวิเศษทันที เลือดไหลนองออกจากคอของเมดูซ่า ก่อกำเนิดเกิดออกมาเป็นม้ามีปีก เปกาซัส แล้วเมดูซ่าก็จบสิ้นความระทมทุกข์ทรมานจากชีวิตอันโหดร้ายของเธอ ส่งผลให้เพอร์ซีอุสกลายเป็นวีรบุรุษอมตะผู้ปราบมารของชาวกรีกไป

ภาพเปอร์ซีอุสกำลังต่อสู้และจะตัดหัวเมดูซ่า

app.emaze.com (2015)

ภาพนี้ถูกวาดในช่วงประมาณ 1613-1617/1618 โดย Peter Paul Rubens ในความร่วมมือของ Frans Snyders. แสดงให้เห็นถึงความทรมาน และ ความน่าสงสารของเมดูซ่า

bottom of page